คาดอดีตทหารพราน ชกผิดคน คิดว่าเป็น จ.ส.อ. ทหารเขมร ตัวตึงประจำปราสาทตาเมือนธม

คาดอดีตทหารพรานชกผิดคน คิดว่าเป็น จ.ส.อ.งอน จันทรา ตัวตึงประจำปราสาทตาเมือนธม สุรินทร์ - สถานการณ์ตึงเครียดชายแดนหลังเหตุปะทะ

สุรินทร์, วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 – บรรยากาศที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ยังคงได้รับความสนใจจากประชาชนและเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุการณ์อดีตอาสาสมัครทหารพรานไทยก่อเหตุชกหน้าทหารกัมพูชาเมื่อวานนี้ (13 ก.ค.68) แหล่งข่าวเบื้องต้นระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นการทำร้ายผิดคน โดยผู้ก่อเหตุอาจเข้าใจผิดว่าเป็น จ.ส.อ.งอน จันทรา #ทหารกัมพูชา "ตัวตึง" ประจำปราสาทตาเมือนธม ที่เคยมีประเด็นโต้เถียงกับทหารไทยก่อนหน้านี้ ขณะที่ฝ่ายไทยได้เร่งประชุมมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างเข้มข้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

บรรยากาศที่ปราสาทตาเมือนธมหลังเหตุการณ์

ในวันนี้ (14 ก.ค.68) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่รายงานบรรยากาศที่ปราสาทตาเมือนธม พบว่าตลอดทั้งวันยังคงมีชาวไทยทยอยเดินทางมาเยี่ยมชมปราสาทและมอบสิ่งของให้กำลังใจแก่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณชายแดนอย่างต่อเนื่อง แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจะไม่มากเท่าช่วงวันหยุดยาวเทศกาลเข้าพรรษา แต่ก็ยังคงมีผู้คนเดินทางมาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากจังหวัดระยองที่เดินทางมาเป็นคณะ และพบแม่ค้าจากจังหวัดชุมพรที่นำทุเรียนมาขาย ก็ถูกนักท่องเที่ยวและทหารเหมาซื้อไปเลี้ยงทหารเพื่อเป็นขวัญกำลังใจอีกด้วย

ในส่วนของ #ชาวกัมพูชา พบว่ามีการเดินทางเข้ามาในพื้นที่เป็นกลุ่มๆ แต่ไม่มากนัก และจากการสังเกตการณ์ตลอดทั้งวัน ไม่พบว่ามีการสร้างสถานการณ์หรือพฤติกรรมใดๆ ที่อาจนำไปสู่ความตึงเครียดเพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่สถานการณ์โดยรวมยังคงสงบ

ตำรวจเร่งสอบปากคำ #ทหารกัมพูชา ผู้ถูกทำร้าย

ในช่วงสายของวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมดงรัก ได้เดินทางเข้ามายังพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม เพื่อประสานงานกับ #ทหารกัมพูชา และขอสอบปากคำ #ทหารกัมพูชา นายที่ถูกอดีตอาสาสมัคร #ทหารพรานไทย ชกหน้าเมื่อวานนี้ การสอบปากคำครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดี เพื่อดำเนินคดีกับอดีตอาสาสมัครทหารพรานคนดังกล่าวตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบว่าทหารกัมพูชานายดังกล่าวขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมแต่อย่างใดในวันนี้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าทหารนายดังกล่าวอาจจะยังคงพักรักษาตัว หรือยังไม่พร้อมที่จะให้ปากคำในขณะนี้

ปมเหตุ: ชกผิดคน? เล็งเป้า "จ.ส.อ.งอน จันทรา" ตัวตึงประจำปราสาท?

แหล่งข่าวเบื้องต้นได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ อาจเป็นกรณีของการทำร้ายผิดตัว โดยอดีตอาสาสมัครทหารพรานผู้ก่อเหตุอาจเข้าใจผิดคิดว่าทหารกัมพูชาที่ถูกชกหน้าเป็น จ.ส.อ.งอน จันทรา ซึ่งเป็นทหารกัมพูชาที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ไทยรู้จักกันดีในฐานะ "ตัวตึง" ประจำปราสาทตาเมือนธม

ย้อนกลับไปเมื่อเกือบสองสัปดาห์ก่อน จ.ส.อ.งอน จันทรา เคยเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง หลังจากที่เขาได้ชี้หน้าต่อว่าทหารไทยอย่างรุนแรง กรณีที่นักท่องเที่ยวไทยยังไม่ยอมกลับออกจากปราสาทตาเมือนธม ทั้งที่เหลือเวลาอีกเพียง 5 นาทีจะถึงเวลา 15.00 น. ซึ่งเป็นเวลาปิดทำการตามข้อตกลงชายแดน เหตุการณ์ในครั้งนั้นได้นำไปสู่การโต้เถียงและกระทบกระทั่งกันเล็กน้อยระหว่างทหารของทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นชนวนเหตุที่สร้างความไม่พอใจให้กับฝ่ายไทย

แหล่งข่าวระบุว่า ทหารกัมพูชาที่ถูกชกหน้าเมื่อวานนี้ มีรูปร่างลักษณะที่ค่อนข้างท้วมและมีลักษณะคล้ายคลึงกับ จ.ส.อ.งอน จันทรา อย่างมาก จึงเป็นไปได้ว่าอดีตอาสาสมัครทหารพรานอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นบุคคลเดียวกัน จึงลงมือก่อเหตุโดยมีแรงจูงใจมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งก่อนหน้านี้ หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็จะทำให้คดีนี้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรของทั้งสองประเทศที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณชายแดน

มาตรการป้องกันสถานการณ์ตึงเครียดจากฝ่ายไทย

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางฝ่ายไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยในช่วงบ่ายของวันนี้ ได้มีการจัดประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง และผู้นำชุมชนในพื้นที่ เพื่อหารือและกำหนดมาตรการในการสอดส่องดูแลบุคคลที่อาจจะเข้ามาสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น

มาตรการที่หารือกันในที่ประชุมเบื้องต้นคือ หากพบเห็นบุคคลใดมีพฤติกรรมน่าสงสัย หรืออาจจะเข้ามาสร้างความวุ่นวายหรือก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ จะให้เจ้าหน้าที่หรือผู้นำชุมชนเดินประกบบุคคลนั้นอย่างน้อย 2 คน เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นอีก มาตรการนี้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของฝ่ายไทยในการควบคุมสถานการณ์และป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ บานปลายกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา

ความท้าทายในการรักษาสันติภาพชายแดน

เหตุการณ์ที่ปราสาทตาเมือนธมครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความเปราะบางของสถานการณ์ชายแดนที่ยังคงต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด แม้ว่าความสัมพันธ์โดยรวมระหว่างไทยและกัมพูชาจะดำเนินไปได้ด้วยดี แต่เหตุการณ์กระทบกระทั่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดจากความเข้าใจผิดหรือความไม่พอใจส่วนบุคคล ก็อาจกลายเป็นชนวนที่นำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่ขึ้นได้

การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยเร่งดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการบังคับใช้กฎหมายและป้องกันไม่ให้เกิดการใช้ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดน ขณะเดียวกัน การที่ฝ่ายไทยมีการประชุมและวางมาตรการป้องกันอย่างเข้มข้น ก็เป็นการแสดงความรับผิดชอบในการรักษาความสงบเรียบร้อยและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย

ความท้าทายต่อไปคือการประสานงานระหว่างหน่วยงานของทั้งสองประเทศ เพื่อทำความเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ และหาทางแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ เพื่อให้มั่นใจว่าบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณชายแดนจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และประชาชนของทั้งสองประเทศสามารถเดินทางไปมาหาสู่และเยี่ยมชมโบราณสถานได้อย่างปลอดภัยและสงบสุข เหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้ทุกฝ่ายต้องเพิ่มความระมัดระวังและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความสัมพันธ์อันดีงามบนแนว #ชายแดนไทย-กัมพูชาสืบไป ติดตามข่าวสารสำคัญรวดเร็วทันเหตุการได้ที่ #TAURUS999 นอกจากนนี้ยังมี่สิ่งที่น่าสนใจอย่างอื่นเช่น ดูหนังชนโรง ดูหนัง18+ ดูบอลสด

#ปั่นสล็อตฟรี และอื่นๆอีกมากมาย #taurus999 ปั่นสล็อตฟรี ดูบอลสด #บาคาร่า ทดลองเล่นบาคาร่า

สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ : https://www.taurus999.com

Tags:

เข้าสู่ระบบ สมัคร
โปรโมชั่น ติดต่อเรา