<<อวสาน>> สายเขียว

นายกรัฐมนตรีแถลง #ยกเลิกนโยบายกัญชาเสรี จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของประเทศไทย

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ทางการเมืองครั้งสำคัญที่สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อสังคมไทยอย่างรุนแรง เมื่อ นายก แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงการณ์อย่างเป็นทางการถึงการยุตินโยบาย #กัญชา เสรีที่ถูกบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2565 โดยให้เหตุผลว่า เป็นมาตรการที่ “จำเป็นต่อความสงบสุขและสุขภาวะของประชาชนโดยรวม”

การประกาศครั้งนี้ไม่เพียงแค่สะเทือนแวดวงธุรกิจ #กัญชา ในประเทศเท่านั้น แต่ยังจุดกระแสถกเถียงในวงกว้างเกี่ยวกับสิทธิในการใช้ #กัญชา เสรีภาพส่วนบุคคล และนโยบายด้านสาธารณสุขอีกด้วย

จาก #กัญชาเสรี สู่การควบคุมเข้มงวด: ย้อนรอยเส้นทาง #นโยบายกัญชา

ย้อนกลับไปในปี 2565 ประเทศไทยสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกโดยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการใช้ #กัญชา ในทางการแพทย์ พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และสร้างรายได้จากธุรกิจสีเขียว

ช่วงแรกของนโยบายนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะในวงการแพทย์แผนไทย เกษตรกร และกลุ่มผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ความกังวลก็เริ่มเพิ่มขึ้น ทั้งในเรื่องของการใช้ #กัญชา โดยเสรีเกินขอบเขต การเปิดร้านนจำหน่ายกัญชาริมถนน การใช้ในหมู่เยาวชน และผลกระทบด้านสุขภาพจิตของผู้บริโภค

คำแถลงจากนายกรัฐมนตรี: เหตุผลเบื้องหลังการยกเลิก

ในคำแถลงความยาวกว่า 30 นาที นายก แพทองธาร ชินวัตร กล่าวชัดเจนว่า การ #ยกเลิกนโยบายกัญชาเสรี มีจุดประสงค์เพื่อ “ปกป้องสุขภาพประชาชน ลดปัญหาสังคม และป้องกันการใช้ในทางที่ผิดโดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน” โดยรัฐบาลชุดใหม่มีแผนจะนำ #กัญชา กลับเข้าสู่บัญชียาเสพติด แต่อนุญาตให้ใช้เฉพาะในบริบทของ "การแพทย์ที่มีใบอนุญาต" เท่านั้น

“เราพบการใช้ #กัญชา ในทางที่ไม่เหมาะสมเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในเด็กวัยรุ่นและกลุ่มเสี่ยง ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรม สุขภาพจิต และการเรียนรู้อย่างชัดเจน การตัดสินใจครั้งนี้อาจไม่ถูกใจทุกคน แต่คือสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำเพื่ออนาคตของชาติ”

ผลกระทบต่อภาคธุรกิจ: ความเสี่ยงและทางรอด

ภายหลังการประกาศ หลายบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจกัญชา เช่น ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ CBD, ฟาร์ม #กัญชา ทางการแพทย์ และผู้ค้ารายย่อยต่างๆ ต่างออกมาแสดงความกังวลทันที โดยชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงกะทันหันนี้อาจส่งผลให้หลายธุรกิจต้องปิดกิจการ และพนักงานจำนวนมากตกงาน

สมาคมผู้ประกอบการ #กัญชาเสรี แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ระบุว่า “รัฐบาลควรให้ระยะเวลาในการปรับตัว ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันซึ่งอาจทำลายเศรษฐกิจสีเขียวที่กำลังเติบโต”

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงเกษตรฯ เร่งจัดตั้ง คณะทำงานเพื่อเยียวยาผู้ประกอบการ และจัดหาทางเลือกใหม่ทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่มีการปลูก #กัญชา เพื่อการพาณิชย์

เสียงจากฝั่งสนับสนุน: เมื่อผู้เชี่ยวชาญเห็นด้วย

แม้จะมีเสียงวิพากษ์จากภาคธุรกิจ แต่จากการสำรวจความเห็นในแวดวงสาธารณสุข กลับพบว่า “ เสียงสนับสนุนการ #ยกเลิกนโยบายกัญชาเสรี ” มีจำนวนมาก

แพทย์หญิงศิรินภา มหาวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น กล่าวว่า

“ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราพบว่าผู้ป่วยวัยรุ่นที่มีอาการจิตหลอนจากการใช้กัญชาเพิ่มขึ้นกว่า 30% การที่รัฐหยุด #กัญชาเสรี ในตอนนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องในเชิงสุขภาพประชาชน”

ขณะเดียวกัน นักวิชาการด้านนโยบายสาธารณสุขอย่าง ศาสตราจารย์ ดร.วิชัย เกตุจินดา ก็ชี้ว่า การอนุญาตให้ใช้ #กัญชา โดยไม่มีระบบควบคุมที่เข้มงวด นำไปสู่การเกิดตลาดสีเทา และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งสวนทางกับเจตนารมณ์เดิมของนโยบาย

กระแสสังคม: แฮชแท็ก #SaveCannabis พุ่งแรงในโซเชียล

หลังจบการแถลงไม่กี่ชั่วโมง แฮชแท็ก #SaveCannabis และ #กัญชาเพื่อประชาชน ก็พุ่งขึ้นติดอันดับ 1 บน X (Twitter) และ Facebook มีผู้ใช้จำนวนมากออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายใหม่นี้ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ นักธุรกิจด้าน #กัญชา และผู้ป่วยที่พึ่งพา #กัญชา ในการรักษาอาการเจ็บป่วย

บางโพสต์วิพากษ์วิจารณ์ว่า “การกลับไปใช้กัญชาเป็นยาเสพติด คือการพาไทยย้อนยุค” ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็มีผู้ใช้ที่สนับสนุนระบุว่า #กัญชา ไม่ควรถูกเปิดเสรีตั้งแต่แรก เพราะไม่ใช่ทุกคนมีวุฒิภาวะพอที่จะใช้ได้อย่างเหมาะสม

อนาคตของ #กัญชา ในไทย: จะไปทางไหนต่อ?

คำถามใหญ่ในขณะนี้คือ “อนาคตของ #กัญชา ในประเทศไทยจะเป็นเช่นไร?” เพราะถึงแม้รัฐบาลจะประกาศยกเลิกเสรี แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ากัญชาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจไทยไปแล้ว

นักวิเคราะห์มองว่า หากรัฐบาลสามารถจัดทำระบบอนุญาตใช้ #กัญชา ทางการแพทย์ที่ชัดเจน และเปิดพื้นที่สำหรับงานวิจัยจริงจัง อาจยังพอสร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัยสาธารณะและการเติบโตทางเศรษฐกิจได้

จุดจบของเสรี หรือจุดเริ่มของการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ?

การยกเลิก #นโยบายกัญชาเสรี ของรัฐบาลชุดปัจจุบันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมาย แต่เป็นการสะท้อนถึงทิศทางใหม่ของนโยบายสุขภาพและเศรษฐกิจที่รัฐบาลเลือกเดิน แม้จะสร้างความสับสนและไม่พอใจในบางกลุ่ม แต่หากมีการออกมาตรการรองรับที่เหมาะสม ก็อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของระบบควบคุม #กัญชา ที่รัดกุมและยั่งยืนกว่าเดิม

สิ่งที่สังคมไทยควรจับตาอย่างใกล้ชิดต่อจากนี้คือ การออก กฎหมายฉบับใหม่ว่าด้วยการควบคุม #กัญชา และการดำเนินการของหน่วยงานรัฐว่าจะสามารถปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรีได้จริงหรือไม่

#TAURUS999 #ข่าว #ข่าวติดกระเเส เเละทางเรายังมีบริการเกมส์พนันออนไลน์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น เว็บตรงสล็อต #บาคาร่า หวย บอล เเละเกมอื่นไอีกมากมาย ครบจบในเว็บเดียว 


Tags:

เข้าสู่ระบบ สมัคร
โปรโมชั่น ติดต่อเรา